แสวงหานิทาน

Thursday, December 22, 2011

นิทาน ปลูกฝังคุณธรรมนักเรียน


เรียนรู้ชีวิตจากนิทานไทย
โดย จรวยพร  ธรณินทร์ 


         กระทรวงศึกษาธิการได้จัดทำโครงการนิทานส่งเสริมคุณธรรม เพื่อนำมาจัดพิมพ์ใหม่สำหรับให้เด็กและเยาวชนอ่าน โดยเน้นคุณธรรมหลัก ๘ ประการ ได้แก่ วินัย มีน้ำใจ ซื่อสัตย์ ขยัน ประหยัด สุภาพ สะอาด และสามัคคี  และเน้นหลักการเศรษฐกิจพอพียง ๓ ประการ คือ พอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันความเสี่ยง  จึงขอนำมาเล่าให้สมาชิก ครีมได้เข้าใจคุณธรรมผ่านนิทาน ๑๑ เรื่อง 

               ๑. คติธรรม การรักษาวินัย จากนิทานเรื่อง จันทโครพ   
จันทโครพเจ้าชายเมืองพาราณสีออกแสวงหาพระอาจารย์และได้เรียนรู้จนสำเร็จวิชาอันแกร่งกล้า จึงเดินทางกลับเมือง ในระหว่างทางพระองค์ได้เปิดผอบที่พระอาจารย์มอบให้นำกลับเมืองและกำชับให้เปิดเมื่อถึงเมืองแล้ว เมื่อผอบเปิดจันทโครพได้พบกับนางโมราสาวงาม ซึ่งเป็นต้นเหตุให้พระองค์ต้องตายเพราะมือโจรในที่สุด  คติเตือนใจ  ควรรู้จักยับยั้งความอยากรู้อยากเห็น ช่วยไม่ให้เกิดภัยพิบัติ
 ๒.คติธรรม  ความมีน้ำใจจากนิทานเรื่อง ชาวนากับงูเห่า         
              ในเช้าของฤดูหนาววันหนึ่ง ชาวนาผู้หนึ่งเดินออกจากบ้านไปทุ่งนา ระหว่างทางเห็นงูเห่าตัวหนึ่ง นอนขดตัวอยู่ เกิดความรู้สึกสงสาร จึงเก็บงูตัวนั้นมากอดไว้ในอ้อมแขน  เมื่องูรู้สึกอบอุ่นก็เคลื่อนไหวและฉกกัดชาวนาด้วยเป็นสัตว์เดียรัจฉาน  ชาวนาจึงสิ้นใจตาย คติเตือนใจ ทำคุณกับคนชั่วมีแต่จะได้รับความเดือดร้อน 

๓.      คติธรรม ความซื่อสัตย์  จากนิทานเรื่อง คนตัดไม้กับเทพารักษ์
               คนตัดไม้คนหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่ริมลำธารเพราะทำขวานของตนเองตกลงไปในน้ำ  เทพารักษ์สงสารจึงปรากฏกายช่วยเหลือโดยครั้งแรกงมขวานทองคำ ครั้งที่สองงมขวานเงินขึ้นมาให้ คนตัดไม้นั้นเป็นคนซื่อสัตย์จึงปฏิเสธว่าไม่ใช่ขวานของตน จนเทพารักษ์งมขวานเหล็กขึ้นมา  เขาจึงยอมรับ เทพารักษ์ตอบแทนความซื่อสัตย์ด้วยการมอบขวานทองคำและเงินให้ด้วย เพื่อนบ้านคนหนึ่งทราบเรื่อง เกิดความละโมบจึงไปที่ลำธารและทำขวานหล่น แต่ด้วยความไม่ซื่อสัตย์ ทำให้เขาไม่ได้ขวานคืนแม้กระทั่งของตนเอง คติเตือนใจ จงพอใจในสิ่งที่เป็นของตน ไม่โลภมาก
๔.คติธรรม ความขยันและอดทน จากนิทานเรื่อง โสนน้อยเรือนงาม
                โสนน้อยเรือนงามเป็นพระราชธิดาของกษัตริย์นครโรมวิสัย นางต้องออกจากเมืองด้วยโหรหลวงทำนายว่าจะมีเคราะห์  พระอินทร์สงสารจึงแปลงร่างเป็นชีปะขาวมามอบยาคืนชีพให้โสนน้อยนำติดตัวไปด้วย โสนน้อยเดินทางมาในป่าได้ช่วยเหลือนางกุลาซึ่งเป็นหญิงอัปลักษณ์และใจร้ายให้ฟื้นคืนชีพ นางกุลาได้ขอเป็นทาสและติดตามไปด้วย ต่อมาโสนน้อยได้มีโอกาสช่วยเจ้าชายวิจิตรจินดาให้ฟื้นคืนชีพเพราะถูกงูพิษกัด นางกุลาได้สวมรอยเป็นพระนางและแอบอ้างแทน  เจ้าชายวิจิตรจินดาไม่เชื่อและใช้วิธีการต่างๆ ทดสอบหาผู้ที่ช่วยเหลือพระองค์ จนในที่สุด พระองค์ก็ได้พบความจริง และเสกสมรสกับพระราชธิดาโสนน้อยมีความสุขสืบมา คติเตือนใจ  ความขยันอดทนมีน้ำใจ เป็นเกราะคุ้มภัยตนเอง
๕.คติธรรม  การประหยัดจากนิทานเรื่อง คนขี้เหนียวกับทองคำ
              เศรษฐีคนหนึ่งเป็นคนขี้เหนียว เขามักนำทรัพย์สมบัติฝังดินไว้รอบบ้าน ไม่นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ด้วยความกลัวคนขโมย ต่อมาเขาจึงได้นำทรัพย์สมบัติไปขายแล้วซื้อเป็นทองคำได้หนึ่งแท่ง นำมาฝังไว้หลังบ้าน เฝ้าดูทุกวัน คนใช้เห็นจึงแอบดู และขโมยไป  เศรษฐีต้องเสียใจเพราะเสียทรัพย์ที่ตนเก็บเอาไว้ คติเตือนใจ  การมีทรัพย์และออมทรัพย์เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องรู้จักประมาณการใช้ทรัพย์ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ด้วย
๖. คติธรรม  ความสุภาพจากนิทานเรื่อง พิกุลทอง
                หญิงหม้ายคนหนึ่งมีลูกสาว ๒ คน คนโตชื่อ มะลิ คนที่สองชื่อพิกุล หญิงหม้ายนั้น รักมะลิมาก เพราะมีรูปร่างหน้าตาและนิสัยเหมือนนาง พิกุลเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาสะสวย กริยามารยาทและน้ำใจงาม  พิกุลต้องทำงานหนักเนื่องจากความลำเอียงของมารดา แต่ด้วยความมีน้ำใจต่อคนอื่น ทำให้พิกุลได้รับพรจากรุกขเทวดา   ให้มีดอกพิกุลทองร่วงออกมาจากปากทุกครั้งที่พูด หญิงหม้ายมีความละโมบได้บีบคั้นให้พิกุลทองพูดเพื่อเอาทองคำ และให้มะลิไปขอพรรุกขเทวดา แต่มะลิมีนิสัยหยาบช้าจึงได้รับผลตรงกันข้ามกับพิกุล พิกุลถูกมารดาทำร้ายต้องหนีออกจากบ้าน ได้พบกับเจ้าชายรูปงามและครองคู่กันต่อมาอย่างมีความสุข คติเตือนใจ ความมีน้ำใจและความสุภาพเป็นเครื่องผูกมิตรต่อผู้อื่น
๗.คติธรรม ความขยันจากนิทานเรื่อง นางอุทัยเทวี
               อุทัยเทวีเป็นธิดาของรุกขเทวดาและนางนาค นางต้องพลัดมาอยู่บนโลกมนุษย์ จึงปกป้องตนเองด้วยการอาศัยอยู่ในร่างของคางคก ต่อมาตายายได้มาพบ นางจึงขอไปอาศัยอยู่ด้วย อุทัยเทวีช่วยเหลือตอบแทนตายายที่เลี้ยงดูตนเอง โดยออกมาจากร่างคางคกและทำงานต่างๆ ในบ้าน อุทัยเทวีเติบโตเป็นสาวสวยงาม เจ้าชายสุทราชกุมาร ได้พบกับนางก็หลงรัก และให้พระราชบิดามาสู่ขอ ตายายได้ขอให้สร้างสะพานทองจากพระราชวังมาถึงบ้าน ทำให้พระราชากริ้วมาก และตรัสให้ตายายสร้างปราสาทหลังใหญ่ให้เสร็จภายใน ๗ วัน เช่นกัน อุทัยเทวีได้เนรมิตปราสาทและเจ้าชายได้ตั้งจิตอธิษฐานขอสะพานทองจากเทวดา ในที่สุดทุกอย่างก็จบลงด้วยความสุข คติเตือนใจ การประพฤติตนเป็นคนดี ขยัน กตัญญูส่งผลให้ได้รับผลบุญที่ดี
๘.คติธรรม ความสามัคคีจากนิทานเรื่อง นกกระจาบ
               นกกระจาบฝูงหนึ่งถูกนายพรานใช้ตาข่ายจับไป หัวหน้านกกระจาบและนกที่เหลือได้หาวิธีเพื่อให้รอดพ้นจากตาข่าย เมื่อฝูงนกถูกนายพรานดักจับ ได้ใช้กลวิธีความสามัคคี ทำให้รอดพ้นจากตาข่ายนายพรานได้อย่างปลอดภัย คติเตือนใจ คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนกลับบ้านได้
๙.คติธรรม ความพอประมาณจากนิทานเรื่อง หมากับเงา
                  หมาหิวโซตัวหนึ่งแย่งก้อนเนื้อชิ้นหนึ่งมาจากหมาซึ่งตัวเล็กกว่า มันคาบก้อนเนื้อนั้นมาถึงลำธารแห่งหนึ่ง ขณะที่มันเดินข้ามสะพานมองลงไปในน้ำก็เห็นเงาของหมาตัวใหญ่ตัวหนึ่งคาบก้อนเนื้อขนาดใหญ่ไว้ในปาก จึงเกิดความโลภคายก้อนเนื้อและกระโดดลงไปในน้ำหมายจะแย่งเนื้อจากหมาที่เห็นในน้ำซึ่งใหญ่กว่า ผลที่สุดหมาตัวนี้ก็ต้องอดโซต่อไป คติเตือนใจ จงพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ โลภมาก ลาภหาย
o.คติธรรม ความมีเหตุผลจากนิทานเรื่องสังข์ทอง
                     รจนาเป็นธิดาองค์สุดท้องในจำนวนพระธิดาเจ็ดองค์ของท้าวสามล พระธิดาหกองค์ได้เลือกคู่ครองที่เป็นเจ้าชายเหมาะสมกับแต่ละคนแล้ว แต่รจนากลับมองเห็นรูปทองภายในของเจ้าเงาะรูปชั่วตัวดำ ท้าวสามลกริ้วมากจึงขับไล่ให้นางรจนาไปอยู่กระท่อมปลายนากับเจ้าเงาะ  พระอินทร์ได้แปลงกายมาประลองตีคลีเมืองกับท้าวสามล เขยทั้งหกไม่สามารถสู้รบกับพระอินทร์  เจ้าเงาะต้องถูกเกณฑ์ไปและมีชัยชนะ ทุกคนจึงได้ทราบความจริงว่า เงาะรูปชั่วตัวดำ คือ เจ้าชายสังข์ทองคติเตือนใจ อย่ามองผู้อื่นหรือตัดสินผู้อื่นแต่เพียงภายนอก
๑๑.คติธรรม  มีภูมิคุ้มกันความเสี่ยง จากนิทานเรื่อง มดง่ามกับจักจั่น
                   ในฤดูฝน จักจั่นผอมโซเพราะเกียจคร้านตัวหนึ่ง มาขออาหารมดงามซึ่งขยันขันแข็งเก็บสะสมอาหารที่หาไว้ในช่วงฤดูร้อน   จักจั่นตัวนั้น นอกจากไม่ได้อาหารจากมดง่ามแล้วยังถูกตำหนิว่ากล่าวให้อับอายอีกด้วย  คติเตือนใจ  ความขยันหมั่นเพียร ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันความเสี่ยงในการดำเนินชีวิต
นิทานส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล่าขานกันมาหลายชั่วคนจนกลายเป็นตำนานสอนใจ
*******

No comments:

Post a Comment