แสวงหานิทาน

Wednesday, December 14, 2011

เรื่อง ของนิทาน

เรื่อง ของนิทาน

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

       นิทาน หมายถึงเรื่องเล่าที่เล่าสืบต่อกันมา มุ่งให้เห็นความบันเทิงแทรก แนวคิด คติสอนใจ นิทาน แปลว่า เหตุเป็นเครื่องมอบให้ซึ่งผล, มูลเค้า, เรื่องเดิม, สมุฏฐาน
      แบ่งนิทานตามเขตพื้นที่ คือ พบนิทานที่ถิ่นใดก็เป็นของถิ่นนั้น เช่น เขตอินเดีย เขตประเทศนับถือศาสนาอิสลาม เขตชนชาติยิวในเอเซียไมเนอร์ เป็นต้น
      นิทาน แบ่งออกได้หลายอย่าง  นิทานปรัมปรา นิทานท้องถิ่น  นิทานอธิบายสิ่งต่าง ๆ  นิทานเกี่ยวกับความเชื่อ  นิทานวีรบุรุษ   นิทานนักบวช  นิทานเกี่ยวกับสมบัติที่ฝังไว้  นิทานสอนใจ  เทพนิยาย  นิทานสัตว์  นิทานสอนคติธรรม นิทานเล่าไม่รู้จบ
       เมื่อพูดถึงนิทาน ทุกคนจะมีความรู้สึกว่าเป็นสุข คือยังไม่ได้ฟังเลยก็มีความสุขแล้ว ทำไมจึงเป็นเช่นนั้นทั้งนี้เป็นเพราะว่า ทุกคนเคยฟังนิทานแล้วทั้งนั้น ยิ่งเป็นนิทานที่ชื่นชอบแล้ว ฟังได้ทุกวันมิเบื่อเลย
       ยิ่งเป็นเด็ก ก็จะตั้งหน้าตั้งตารอคอย เมื่อไรจะค่ำ  จะได้ฟังนิทานจากการเล่าของคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย เรารู้จักกันว่าเป็น นิทานก่อนนอน
        นิทานมีมากมายหลายประเภทตามที่กล่าวมา เช่น นิทานชาดก   ซึ่งเราชาวพุทธเชื่อว่า มิใช่เรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อสอนคุณธรรมอย่างที่นิทานนิทานทั่วไป แต่นิทานชาดก  เป็นเรื่องจริง คือ  เป็นเรื่องในอดีตชาติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ที่พระองค์ทรงแสดงแก่พระภิกษุในโอกาสต่าง ๆ บางครั้งก็เพื่อแสดงภูมิหลังของผู้ที่พระองค์ต้องการแสดงธรรมให้ฟัง บางครั้งก็เพื่ออธิบายเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
        ดังนั้น ผู้อ่านนิทานชาดก หรือนิทานธรรมะ ควรอ่านอย่างพิจารณา และนำหลักธรรมไปใช้เป็นคุณประโยชน์ ส่วนความ เพลิดเพลินจากนิทานธรรมะ นั้นถือเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น  จึงจะนับว่าได้รับประโยชน์จากนิทานชาดก หรือ นิทานธรรมะ 
         นอกจากนี้ยังมีนิทาน"นิทานอีสป" มีต้นกำเนิดอยู่ที่อาณาจักรกรีกโบราณ ซึ่งเจ้าของเรื่องเล่าอันสุดแสนสนุกไม่ใช่นักปราชญ์แต่เป็นทาสที่ไร้การศึกษา แต่เปี่ยมไปด้วยเชาวน์ปัญญาความรู้ และมีจินตนาการ
         อีสปเป็นชายผิวสีชาวแอฟริกาที่มีชีวิตอยู่ในนครรัฐกรีกและต้องการทำมาหากิน โดยการขายตัวเป็นทาส แต่โชคร้ายที่รูปร่างหน้าตาของเขาไม่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานที่พิจารณา คนที่มีความสามารถด้านการต่อสู้เป็นหลัก แต่พระเจ้ากลับประทานมันสมองอันเลอเลิศให้แก่อีสปเป็นการตอบแทน เขาจึงหันมาใช้สติปัญญาในการหาเลี้ยงชีพแทนการใช้กำลัง 
        ผู้ที่อ่านนิทาน อีสป นอกจากจากจะได้รับการเพลิดเพลินแล้วมีคติเตือนใจ
        นิทานพื้นบ้าน หมายถึง เรื่องเล่าที่เล่าสืบต่อกันมา ดั้งเดิมนั้นถ่ายทอด การเล่าปากต่อปากกันมา การบอกเล่าต่อๆกันมา ช้านาน และนิทานพื้นบ้านต้องเล่าด้วยถ้อยคำธรรมดา ภาษาชาวบ้านทั่วๆไป เป็นเรื่องเล่าต่อๆกันมาช้านาน หลายชั่วอายุคน ไม่สามารถรู้ได้ว่าใครเป็นคนเล่าดั้งเดิม ต้นเรื่องคือใคร
มีทั่วทุกประเทศในโลก  
        นิทานภาษาอังกฤษ วีดีโอนิทาน คลิปนิทาน การ์ตูนสุภาษิต ให้ศึกษา เพื่อให้เป็น นิทานเยาวชน นิทานเด็ก นิทานสอนใจ นิทานคุณธรรม เพื่อจรรโลงจิตใจ ผู้ศึกษาให้รักในคุณงามความดี
        เวลานิทานพร้อมแล้ว
*******
เริ่มเรื่องนิทาน เรื่องแรกเป็นนิทานชาดก ตรงกับยุคสมัยนี้พอดีคือการ ปรองดองชื่อเรื่องว่า

การร่วมมือกัน


       ในสมัยหนึ่งพระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภพระเทวทัตผู้พยายามปลงพระชนม์พระองค์ ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...
       กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นกวางตัวหนึ่ง อาศัยอยู่ในป่าละเมาะแห่งหนึ่ง ในที่ไม่ไกลจากนั้นมีสระน้ำสระหนึ่ง เต่าตัวหนึ่งอาศัยอยู่ และใกล้ ๆ สระน้ำนั้นมีนกสตปัตตะทำรังอยู่ สัตว์ทั้ง ๓ เป็นเพื่อนรักกันมาก วันหนึ่ง กวางออกหากินได้ติดบ่วงนายพรานตอนเที่ยงคืนจึงร้องเรียกให้เพื่อนมา ช่วย เต่าและนกสตปัตตะมาเห็นแล่วตกลงกันว่าให้เต่าใช้ปากกัดบ่วงให้ขาดก่อนฟ้า สว่าง ส่วนนกพยายามไม่ให้นายพรานออกจากบ้านก่อนสว่างเช่นกัน เมื่อตกลงกันตามนั้นนกสตปัตตะจึงพูดเตือนเต่าว่า "เต่า  เพื่อนรัก ท่านต้องรีบกัดบ่วงให้ขาดเร็ว ๆ นะ เราจักหาวิธีไม่ให้นายพรานมาถึงที่นี่เร็วได้" ว่าแล้วก็บินไป
       ฝ่ายเต่าได้เริ่มแทะเชือกบ่วกนั้นทันที ส่วนนกสตปัตตะได้บินไปจับที่ต้นไม้หน้าบ้านนายพราน พอถึงเวลาตี ๕ นายพรานลุกขึ้นเดินถือหอกออกมาทางประตูหน้าบ้าน นกเห็นเช่นนั้นก็บินโฉบลงไปจิกนายพราน เขาถูกนกจิกไปหลายทีจึงคิดว่าเราถูกนกกาฬกรรณีจิกแล้ว โชคไม่ดีเลยเวลานี้ กลับเข้าไปนอนต่ออีกสักหน่อยดีกว่า"
        เวลาผ่านไปเล็กน้อยนายพรานได้เปลี่ยนไปออกทางประตูหลังบ้าน นกสตปัตตะก็ไปดักที่ประตูหลังบ้านเช่นกัน เขาถูกนกจิกอีกเป็นครั้งที่ ๒ จึงกลับเข้าบ้านไปพร้อมกับบ่นว่า "นกบ้านี่ร้ายจริง ๆ ไว้ให้สว่างก่อนค่อยไปก็ได้วะ"
       พอสว่างแล้ว นายพรานเดินถือหอกออกจากบ้านไป นกสตปัตตะได้บินไปบอกกวางและเต่าล่วงหน้าแล้ว ปรากฏว่าเต่าแทะเชือกบ่วงทั้งคืนจนปากระบมเปื้อนไปด้วยเลือดยังเหลือเชือก เกลียวเดียวก็จะขาด กวางจึงใช้กำลังดิ้นให้เชือกขาดหลุดหนีเข้าป่าไปได้อย่างหวุดหวิด ปล่อยให้เต่านอนหมดแรงอยู่ตรงนั้น นายพรานมาเห็นเฉพาะเต่านอนอยู่จึงใส่กระสอบแขวนเต่าเอาไว้บนกิ่งไม้กวางได้ปรากฎตัวให้นายพรานเห็นแล้วล่อให้นายพรานวิ่งตามไปจนไกลลิบ แล้ววิ่งย้อนกลับคืนมาช่วยเต่า โดยใช้เขายกกระสอบลงมาแล้วกล่าวขอบคุณเต่าและนกสตปัตตะที่ได้ช่วยเหลือชีวิต และต่างคนต่างแยกย้ายกันหลบซ่อนและหาที่อยู่ใหม่เพื่อความปลอดภัย เต่าได้หนีลงน้ำ กวางหนีเข้าป่าลึก ส่วนนกสตปัตตะไปถึงต้นไม้แล้วก็พาลูก ๆ ไปอยู่ในทีห่างไกล
        นายพรานกลับมาถึงที่นั้นอีกไม่เห็นเต่าในกระสอบ ก็ได้แต่ถือกระสอบขาดกลับบ้านไป สัตว์ทั้ง ๓ ได้เป็นเพื่อนรักกันจนตราบเท่าชีวิต 
*******
เรื่องและภาพจาก http://www.dhammathai.org

No comments:

Post a Comment